การฉีด PRP คืออะไร

PRP (Platelet Rich Plasma) คือ เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นกว่าเกล็ดเลือดในกระแสโลหิตทั่วไป 3 – 4 เท่า โดยเป็นเกล็ดเลือดเข้มข้นที่เหมาะสมในการใช้ในการรักษา


การฉีดPRP จะช่วยฟื้นฟูให้ผิวที่เสื่อมสภาพตามอายุนั้นกลับมามีคอลลาเจน และยืดหยุ่นดีอีกครั้ง โดยทำการฉีดเกล็ดเลือดของตัวคนไข้เองกลับเข้าไปที่ใบหน้า

วิธีนี้กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่นที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับวิธีการรักษาผิวหน้าด้วย PRP มาเป็นเวลานานแล้ว

วิธีการฉีด PRP

ในการที่เราจะฉีดPRP ก่อนอื่นเราจะทำการสกัดเลือดของตัวคนไข้เอง และใช้เครื่อง Centrifuge เพื่อแยกส่วนของเลือด และน้ำออกจากกันเพื่อที่จะได้เกล็ดเลือดที่เข้มข้น และสมบูรณ์ที่สุด โดยแยกชั้นออกเป็น 3 ส่วน คือ เกล็ดเลือดที่ไม่เข้มข้น , เซลล์เม็ดเลือดขาว + เกล็ดเลือดเข้มข้น(PRP) และเซลล์เม็ดเลือดแดง

Growth Factor สำคัญใน PRP



ผลลัพธ์ของการฉีด PRP

ตามหลักการของการรักษาผิวหน้าด้วย PRP นั้น ก็เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว และเสริมสร้างโปรตีนให้กับผิวที่จะช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยการกระตุ้นคอลลาเจนภายในผิวหนังชั้นใน  และยังช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดแดงรวมไปถึงเซลล์ต้นกำเนิดด้วย
อย่างไรก็ดี การรักษาด้วย PRP ยังถูกใช้เพื่อให้ฟื้นตัวได้ไวขึ้นจากการผ่าตัด ช่วยในเรื่องของกระดูก และเส้นเอ็น การทำทันตกรรม และการผ่าตัดศัลยกรรมอื่นๆ
PRP มักจะฉีดโดยตรงเข้าที่บริเวณที่ต้องการ เช่น บริเวณที่มีความยืดหยุ่นน้อย บริเวณที่มีแผล หรือ ยังสามารถใช้ฉีดที่ผิวหน้า หลังจากการทำเลเซอร์ต่างๆ เช่น Fraxel ได้อีกด้วย
เกล็ดเลือดที่ใช้งานได้กระตุ้นให้เกิดความแตกต่างของเซลล์ต้นกำเนิด และช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในเซลล์ เช่น คอลลาเจน และ อีลาสติน และด้วยวิธีการใหม่นี้เองที่ช่วยเซลล์เติบโตย่างมีประสิทธิภาพเพื่อฟื้นฟูผิวให้เกิดใหม่อีกครั้ง
เมื่อ PRP ถูกฉีดเข้าที่หนังศีรษะ จะทำให้หนังศีรษะกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง และช่วยสร้างเซลล์ของรูเส้นผมซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้การเจริญเติบโตของเส้นผมที่ช่วยในการรักษาอาการผมร่วง
การฉีดPRP กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินที่มีประสิทธิภาพในการให้ผิวกลับมาเกิดใหม่สุขภาพดีอีกครั้ง การฉีดPRPนี้ คล้ายกับวิธีการฉีดโบท๊อกหรือฟิลเลอร์ที่ใช้เวลาทำเพียงสั้นๆ และค่อนข้างง่าย
โดยปกติจะเห็นผลลัพธ์หลังการทำไปแล้ว 2 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ดีระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์ก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งสำหรับการทำ 1 ครั้งจะอยู่ได้นาน 6 เดือน
PRP ยังสามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีเมื่อทำร่วมกัน เช่น PRP+Laser, PRP+RF, PRP+Fat Injection.

การรักษาด้วย PRP ไม่มีมีข้อควรระวังหลังจากการทำ สามารถล้างหน้า และอาบน้ำในวันที่เข้ารับบริการได้เลย ซึ่งไม่ส่งผลกระทบใดๆกับชีวิตประจำวัน ดังนั้นการรักษาด้วย PRP จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก


ยินดีให้คำปรึกษานะคะ








ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เติมไขมันหน้าเด็ก อุดร

DSclinic: introduction

Dual Yellow เลเซอร์รักษาฝ้า รอยสิว